ฟอกสีฟันเพื่อรอยยิ้มสดใส ด้วยระบบ ZOOM และวิธีฟอกที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณเคยรู้สึกไม่มั่นใจเวลายิ้มเพราะฟันมีคราบเหลืองหรือคล้ำหรือไม่? การฟอกสีฟันคือทางออกที่จะช่วยให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสและมั่นใจอีกครั้ง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการฟอกสีฟันและข้อควรรู้ก่อนการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันคืออะไรและทำไมควรเลือกทำกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

รู้จักการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening) เป็นการใช้สารเคมีหรือน้ำยาฟอกสีฟันที่มีคุณสมบัติในการทำปฏิกิริยากับเม็ดสีหรือคราบที่อยู่ในเนื้อฟัน โดยเฉพาะคราบที่เกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มต่างๆ เช่น กาแฟ ชา หรือไวน์แดง และคราบที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ซึ่งอาจฝังตัวอยู่ภายในเนื้อฟัน เพื่อให้ฟันดูขาวขึ้น โดยไม่ทำลายเคลือบฟัน ไม่กัดกร่อนเนื้อฟัน หรือไม่ทำให้ฟันบางลง

ฟอกสีฟันปลอดภัยหรือไม่? มาทำความรู้จักกับหลักการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน

สารเคมีที่ใช้ในการฟอกสีฟัน: น้ำยาฟอกสีฟันมักประกอบด้วยสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการฟอกสี เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ซึ่งเป็นสารที่สามารถปล่อยออกซิเจนที่มีพลังงานสูงเมื่อสัมผัสกับคราบและเม็ดสีที่สะสมอยู่บนฟัน

การทำปฏิกิริยากับเม็ดสี (Chromophores): เม็ดสีในเนื้อฟันคือกลุ่มของสารที่ทำให้ฟันมีสีเหลืองหรือสีน้ำตาล การใช้สารฟอกสี เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จะทำปฏิกิริยากับเม็ดสีเหล่านี้ โดยจะทำลายโครงสร้างทางเคมีของเม็ดสีและเกิดการแตกตัวของโมเลกุลสีที่ฝังตัวในฟัน กลายเป็นสารที่ไม่มีสีหรือสีจางลง ซึ่งช่วยให้สีของฟันดูขาวขึ้น โดยไม่ทำลายเคลือบฟัน ไม่กัดกร่อนเนื้อฟัน หรือไม่ทำให้ฟันบางลง

ฟอกสีฟันแตกต่างจากขัดฟันอย่างไร

หลายคนมักสับสนระหว่างการขัดฟันกับการฟอกสีฟัน ซึ่งความจริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ข้อดีของการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์มีข้อดีมากมายเมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป:

1. ความปลอดภัยสูงสุด - ทันตแพทย์ประเมินสภาพฟันก่อนการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าฟันของคุณเหมาะสมกับการฟอกสี
2. ผลลัพธ์ที่ดีกว่า - การฟอกโดยทันตแพทย์ใช้สารฟอกที่มีความเข้มข้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป จึงได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่า
3. ลดความเสี่ยง - การป้องกันเนื้อเยื่ออ่อนอย่างเหมาะสมช่วยลดการระคายเคืองและความเสียหายต่อเหงือก
4. การดูแลหลังการรักษา - ทันตแพทย์ให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลในการดูแลรักษาสีฟันให้สวยยาวนาน
5. แก้ไขปัญหาเฉพาะจุด - สามารถแก้ไขปัญหาสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอได้ดีกว่า

ฟอกสีฟันที่คลินิก vs ฟอกสีฟันที่บ้าน

ที่ CDC Dental เรามีบริการฟอกสีฟัน 2 รูปแบบหลักเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ป่วย โดยทุกวิธีดำเนินการภายใต้การดูแลและคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม

การฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรมเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ดำเนินการโดยทันตแพทย์ที่ CDC Dental ด้วย Zoom! Teeth whitening ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในการฟอกสีฟันในสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย

ขั้นตอนการฟอกสีฟันแบบ ZOOM

1. ทันตแพทย์ตรวจสภาพฟันและเหงือกเพื่อประเมินความเหมาะสม
2. ทำความสะอาดฟันเพื่อกำจัดคราบสกปรกเบื้องต้น
3. ใช้วัสดุป้องกันเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก
4. ทาเจลฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง
5. ฉายแสง LED สีฟ้าเพื่อเร่งกระบวนการฟอกสี
6. ทำซ้ำ 2-3 รอบ รอบละประมาณ 15 นาที
7. ล้างทำความสะอาดและทาฟลูออไรด์เพื่อลดอาการเสียวฟัน

ข้อดีของการฟอกสีฟันแบบ ZOOM

1. เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากฟอกสีฟันเสร็จ
2. ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยและต้องการเห็นผลลัพธ์ในทันที
3. ผลลัพธ์คงทนนานถึง 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดูแลของแต่ละบุคคล

ฟอกสีฟันเองที่บ้าน ได้ผลจริง และปลอดภัยสำหรับทุกคน

การฟอกสีฟันที่บ้านเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องฟอกสีฟันด้วยตนเองหรือผู้ที่ต้องการรักษาสภาพสีฟันให้ขาวยาวนานขึ้น

ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน

1. ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล ซึ่งจะมีขนาดที่พอดีกับช่องปากของผู้ป่วยแต่ละราย
2. ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำและอธิบายเกี่ยวกับวิธีใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน ซึ่งประกอบด้วยถาดพิมพ์ปากและน้ำยาฟอกสีฟัน
3. ระยะเวลาที่ใช้ฟอกในแต่ละวันจะแตกต่างกันไปตามความเข้มข้นของน้ำยาฟอกสีฟัน:
   • Opalescence PF 10% ใช้เวลาฟอก 8-10 ชั่วโมงหรือใส่ข้ามคืน
   • Opalescence PF 15% ใช้เวลาฟอก 4-6 ชั่วโมง
   • Opalescence PF 20% ใช้เวลาฟอก 2-4 ชั่วโมง
   • Opalescence PF 35% ใช้เวลาฟอก 30 นาที
4. ทำต่อเนื่อง 10-14 วันตามแผนการรักษา
5. กลับมาพบทันตแพทย์เพื่อติดตามผล

ข้อดีของการฟอกสีฟันที่บ้าน

1. อ่อนโยนต่อฟันและเหงือก โอกาสเกิดอาการเสียวฟันน้อย
2. ยืดหยุ่นตามเวลาว่างของผู้ป่วย แต่ผู้ป่วยต้องมีวินัยในการฟอกสีฟันทุกวัน
3. ผลลัพธ์โดยรวมเมื่อทำครบตามกำหนด จะไม่ต่างจากการฟอกสีฟันที่คลินิกมากนัก
4. สามารถใช้รักษาสภาพสีฟันให้สวยยาวนานขึ้นได้

เคล็ดลับดูแลฟันขาวหลังฟอกสีฟันเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน

สีของฟันที่ฟอกแล้วจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ในบางรายอาจนานถึง 3 ปี อย่างไรก็ตาม ความคงทนของสีฟัน จะขึ้นอยู่กับการดูแลฟันหลังจากฟอกสีฟัน ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้:

1. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสี - งดชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม อาหารมีสี (เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสถั่วเหลือง)
2. งดบุหรี่ - บุหรี่เป็นสาเหตุหลักของคราบสีบนฟัน ควรงดหรือลดการสูบบุหรี่
3. ทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอ - แปรงฟันอย่างถูกวิธีร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
4. ใช้หลอดดูด - เมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีสี ให้ใช้หลอดดูดเพื่อลดการสัมผัสกับผิวฟัน
5. ทำความสะอาดทันที - หลังรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสี ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทันที
6. ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ - ตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฟอกสีฟัน

ฟอกสีฟันทำให้เสียวฟันหรือฟันบางลงไหม? ความจริงที่ควรทราบ

หลายคนกังวลว่าการฟอกสีฟันจะทำให้เสียวฟันหรือทำให้ฟันบางลง ความจริงแล้วตามการศึกษาทางทันตกรรม:

• ไม่ทำให้ฟันบางลง - การศึกษาจาก Journal of the American Dental Association พบว่าการฟอกสีฟันที่ดำเนินการอย่างถูกต้องไม่ทำให้โครงสร้างฟันเสียหายหรือบางลง
• อาจมีอาการเสียวฟันชั่วคราว - ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ที่ฟอกสีฟันอาจมีอาการเสียวฟันในระยะสั้น ซึ่งมักหายไปภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษา
• ความเสียวฟันเป็นผลจากการซึมผ่าน - สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สามารถซึมผ่านท่อเล็กๆ ในเนื้อฟัน (dentinal tubules) และกระตุ้นเส้นประสาทชั่วคราว
• มาตรการป้องกัน - ทันตแพทย์จะใช้วัสดุป้องกันเนื้อเยื่ออ่อนและเหงือกเพื่อลดการระคายเคือง และมักมีการทาสารลดอาการเสียวฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรทหรือฟลูออไรด์หลังการรักษา
• วิธีลดความเสียว - การใช้ยาสีฟันสำหรับฟันเสียวก่อนและหลังการฟอกสีฟัน 2 สัปดาห์ช่วยลดอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฟอกสีฟัน

ผลข้างเคียงที่พบเจอได้บ่อยจากการฟอกสีฟัน คือ อาการเสียวฟันในระหว่างฟอกสีฟันและหลังจากฟอกสีฟันเสร็จ ประมาณ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้อาจมีอาการระคายเคืองเหงือก ในกรณีที่น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสโดนเหงือก ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง

วิธีป้องกันและลดผลข้างเคียง:

1. ตรวจสภาพฟันกับทันตแพทย์ก่อนการฟอกสีฟันเสมอ
2. เลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพฟันของคุณ
3. ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
4. ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟันหลังการรักษา

ฟอกสีฟัน ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

• สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร
• ผู้ที่มีอาการเสียวฟันง่าย
• ผู้ที่มีฟันสีคล้ำจากการทานยาเตตราไซคลีน
• ผู้ที่มีฟันสึกหรอมาก
• ผู้ที่มีเหงือกร่น รากฟันเปิด
• ผู้ที่มีฟันบูรณะจำนวนมาก (ครอบฟัน สะพานฟัน วีเนียร์)
• เด็กและวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 16 ปี

โปรโมชั่นพิเศษ: ฟอกสีฟันราคาพิเศษที่ CDC Dental

ฟอกสีฟันที่คลินิกด้วย Zoom! Teeth whitening

• ราคา 9,500 บาท (จากราคาปกติ 12,000 บาท)
• ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เห็นผลทันที
• รวมการตรวจและประเมินสภาพฟันโดยทันตแพทย์
• ทาฟลูออไรด์เพื่อป้องกันอาการเสียวฟัน

ฟอกสีฟันที่บ้าน

• ราคา 5,000 บาท
• ประกอบด้วย ถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล 1 คู่ และน้ำยาฟอกสีฟัน Opalescence 2 หลอด
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัดในการมาคลินิก
• สามารถทำที่บ้านได้ตามเวลาที่สะดวก

นอกจากนี้ เรายังมีแพ็คเกจพิเศษเมื่อทำร่วมกับบริการอื่นๆ เช่น การทำความสะอาดฟัน หรือการรักษาทางทันตกรรมอื่นๆ

ฟอกสีฟันกับสิทธิประกันสังคม ครอบคลุมหรือไม่?

ปัจจุบันสิทธิประกันสังคมไม่ครอบคลุมการฟอกสีฟัน เนื่องจากถือเป็นการรักษาเพื่อความสวยงาม ไม่ใช่การรักษาโรค ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม บางบริษัทประกันสุขภาพเอกชนอาจมีแผนประกันที่ครอบคลุมการฟอกสีฟันบางส่วน คุณควรตรวจสอบกับบริษัทประกันของคุณโดยตรง

สนใจฟอกสีฟัน ติดต่อเราเลย!

สรุป การฟอกสีฟันเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงรอยยิ้มให้สว่างสดใส เมื่อทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการฟอกสีฟันแบบ ZOOM ที่ให้ผลรวดเร็ว หรือชุดฟอกฟันที่บ้านที่สะดวกสบาย CDC Dental มีทางเลือกที่เหมาะสมกับทุกความต้องการและงบประมาณ พร้อมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลและให้คำแนะนำคุณตลอดกระบวนการ เพื่อให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มที่สวยงามอย่างปลอดภัย

ท่านสามารถนัดหมายตรวจประเมินกับทันตแพทย์ได้ฟรี LINE @CDC.DENTAL

สาขา ศูนย์ทันตกรรมจตุจักร BTS สะพานควาย โทร 097-925-2424

สาขา ลาดพร้าว 109 (ปริญญาทันตคลินิก เดิม) โทร 097-925-2442

อ้างอิง

• Carey, C. M. (2014). Tooth whitening: what we now know. Journal of Evidence Based Dental Practice, 14, 70-76.
• Kwon, S. R., & Wertz, P. W. (2015). Review of the mechanism of tooth whitening. Journal of Esthetic and Restorative Dentistry, 27(5), 240-257.