ขูดหินปูน vs เกลารากฟัน – ต่างกันอย่างไร?

เกลารากฟัน

การขูดหินปูน (Scaling) และการเกลารากฟัน (Root Planing) เป็นหัตถการทางทันตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดฟันและเหงือก แต่มีจุดประสงค์และกระบวนการที่แตกต่างกัน

ขูดหินปูน (Scaling, Cleaning)

จุดประสงค์ของการขูดหินปูน:

  • กำจัดคราบหินปูนที่สะสมบนฟันและใต้ขอบเหงือก
  • ป้องกันโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์
  • ลดปัญหากลิ่นปากจากการสะสมของแบคทีเรีย
  • ช่วยให้เหงือกสุขภาพดีขึ้นและลดอาการเลือดออกขณะแปรงฟัน

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่มีหินปูนสะสมทั่วไป และต้องการดูแลสุขภาพช่องปาก
  • แนะนำให้ทำทุก 6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นในบางกรณี

เกลารากฟัน (Root Planing, Deep Cleaning) คืออะไร?

การเกลารากฟัน (Root Planing) หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า "Root Planing" เป็นขั้นตอนที่ลึกกว่าการขูดหินปูน ใช้สำหรับรักษาโรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) โดยทำความสะอาดลึกถึงรากฟัน เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียที่อยู่ใต้เหงือกและช่วยให้เหงือกยึดติดกับฟันได้ดีขึ้น

จุดประสงค์ของการเกลารากฟัน:

  • ขจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียที่สะสมอยู่ลึกใต้เหงือก
  • ช่วยให้เหงือกที่อักเสบลดอาการบวมและติดกับรากฟันได้ดีขึ้น
  • ลดอาการเลือดออกและฟันโยกจากโรคปริทันต์
  • ป้องกันการทำลายกระดูกที่รองรับฟัน

เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่มีโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งเหงือกร่นและมีการสะสมของหินปูนใต้เหงือก
  • ผู้ที่มีฟันโยกเล็กน้อยจากโรคเหงือก
  • แนะนำโดยทันตแพทย์เมื่อพบว่ามีร่องเหงือกลึกกว่า 4 มิลลิเมตร

การแบ่งการรักษาเป็นบริเวณ: การเกลารากฟันมักต้องแบ่งทำเป็นบริเวณ (Quadrant, Sextant) เนื่องจากเป็นหัตถการที่ละเอียดและต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ ทันตแพทย์จะแบ่งการรักษาเป็น 4-6 บริเวณ เช่น:

  • ฟันหลังบนด้านขวา
  • ฟันหน้าบน
  • ฟันหลังบนด้านซ้าย
  • ฟันหลังล่างด้านขวา
  • ฟันหน้าล่าง
  • ฟันหลังล่างด้านซ้าย

ทั้งนี้เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ ไม่เจ็บปวด และผู้ป่วยไม่ต้องรับยาชาทั้งปากในคราวเดียว

dental sextant

เปรียบเทียบ ขูดหินปูน vs เกลารากฟัน

คุณสมบัติ ขูดหินปูน (Scaling) เกลารากฟัน (Root Planing)
เป้าหมายหลัก ขจัดหินปูนที่เกาะบนฟันและใต้ขอบเหงือก ขจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียที่ลึกลงไปใต้เหงือก
ระดับความลึก บริเวณผิวฟันและใต้ขอบเหงือกเล็กน้อย ลึกลงไปในรากฟันและร่องเหงือก
เหมาะกับใคร? ผู้ที่มีหินปูนทั่วไป ผู้ที่มีโรคปริทันต์อักเสบ เหงือกร่น ฟันโยก
เครื่องมือที่ใช้ Ultrasonic Scaler หรือ Piezoelectric Scaler เครื่องมือขูดหินปูนร่วมกับ Hand Scaling และยาชาเฉพาะที่
ความถี่ในการทำ ทุก 6 เดือน ตามความรุนแรงของโรคปริทันต์
อาการหลังทำ อาจมีเสียวฟันเล็กน้อย อาจมีเสียวฟันและเหงือกอักเสบเล็กน้อยจากการทำความสะอาดลึก
การใช้ยาชา มักไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา จำเป็นต้องใช้ยาชาเฉพาะที่เกือบทุกครั้ง
การแบ่งบริเวณรักษา ทำทั้งปากในครั้งเดียวได้ มักแบ่งทำเป็นบริเวณ 4-6 ส่วน

ขูดหินปูนหรือเกลารากฟัน ควรเลือกแบบไหนดี?

  • ขูดหินปูน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาโรคเหงือกรุนแรง ต้องการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำ อาจทำร่วมกับการทำ Air-flow
  • เกลารากฟัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคปริทันต์อักเสบ และต้องการลดการอักเสบของเหงือกและฟันโยก อาจทำร่วมกับการทำ Air-flow ด้วยได้

หากไม่แน่ใจว่าควรทำหัตถการใด ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจประเมินสุขภาพเหงือกและฟันก่อนตัดสินใจรักษา

เกลารากฟัน ราคา

ค่าบริการขูดหินปูนและเกลารากฟัน:

  • เกลารากฟัน (ต่อซี่): 400 บาท
  • รักษาโรคเหงือก (ต่อครั้ง): 1,500 - 2,000 บาท *หมายเหตุ: การรักษาโรคเหงือกคือการเกลารากฟันหลายซี่โดยแบ่งบริเวณทำ เช่น ฟันหลังบนด้านขวา, ฟันหน้าบน, หรือฟันหลังบนด้านซ้าย ซึ่งจะทำเป็นบริเวณๆ ไป

เกลารากฟัน เจ็บไหม?

เกลารากฟันเป็นหัตถการที่ต้องทำความสะอาดลึกถึงรากฟัน อาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บได้หากไม่ใช้ยาชา อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อนเริ่มหัตถการเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างทำ

จากประสบการณ์ผู้ป่วยใน Pantip:

  • ส่วนใหญ่รายงานว่าไม่เจ็บระหว่างทำเนื่องจากได้รับยาชา แต่อาจรู้สึกแรงกดบนฟันและเหงือก
  • หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีอาการเสียวฟันและเหงือกอ่อนนุ่มประมาณ 1-2 วัน
  • ยาแก้ปวดทั่วไปช่วยบรรเทาอาการไม่สบายได้

เกลารากฟัน ฟันโยก

การเกลารากฟันเป็นวิธีรักษาที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันโยกจากโรคปริทันต์ เมื่อมีการสะสมของหินปูนและแบคทีเรียใต้เหงือกเป็นเวลานาน จะทำให้กระดูกรอบรากฟันถูกทำลาย ส่งผลให้ฟันโยกได้

ประโยชน์ของการเกลารากฟันในกรณีฟันโยก:

  • กำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการทำลายกระดูกรอบรากฟัน
  • ช่วยให้เหงือกยึดติดกับรากฟันได้ดีขึ้น
  • ลดการอักเสบของเหงือก ทำให้อาการฟันโยกลดลง
  • ชะลอการสูญเสียฟัน

ข้อควรทราบ: หากฟันโยกมาก การเกลารากฟันอาจไม่เพียงพอ อาจต้องรักษาเพิ่มเติม เช่น การเข้าเฝือกฟัน (Splinting) หรือการผ่าตัดเหงือกเพื่อเสริมกระดูก

เกลารากฟัน เบิกประกันสังคมได้ไหม?

ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมสามารถเบิกค่าเกลารากฟันได้ภายใต้เงื่อนไขดังนี้:

  • ต้องเป็นการรักษาที่จำเป็นตามความเห็นของทันตแพทย์
  • เบิกได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 900 บาทต่อปี
  • สามารถรับบริการได้ที่สถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่ทำสัญญากับสำนักงานประกันสังคม
  • กรณีเข้ารับบริการที่คลินิกเอกชนที่ไม่ได้ทำสัญญากับประกันสังคม สามารถนำใบเสร็จและใบรับรองจากทันตแพทย์มาเบิกได้ภายหลัง

เกลารากฟัน โรงพยาบาลรัฐ ราคา

ราคาการเกลารากฟันในโรงพยาบาลรัฐมีราคาที่ถูกกว่าคลินิกเอกชนทั่วไป โดยมีอัตราค่าบริการโดยประมาณดังนี้:

  • ค่าเกลารากฟัน: 200-350 บาทต่อซี่
  • ค่าขูดหินปูนทั้งปาก: 300-800 บาท

ข้อควรทราบ:

  • ผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง สามารถรับบริการขูดหินปูนได้ฟรีปีละ 1 ครั้ง
  • การเกลารากฟันในโรงพยาบาลรัฐจะมีคิวรอนาน อาจต้องนัดล่วงหน้า 1-3 เดือน
  • ราคาอาจแตกต่างกันตามแต่ละโรงพยาบาล

การเลือกสถานที่เกลารากฟันควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:

  • ประสบการณ์ของทันตแพทย์: ควรเลือกทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านปริทันตวิทยา (เหงือก)
  • อุปกรณ์ที่ทันสมัย: คลินิกที่มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ความสะอาดของคลินิก: มาตรฐานความสะอาดและการฆ่าเชื้อของคลินิกเป็นสิ่งสำคัญ
  • ความสะดวกในการนัดหมาย: คลินิกที่มีระบบการนัดหมายที่สะดวกและมีความยืดหยุ่น

จากความคิดเห็นใน Pantip หลายคนแนะนำให้เลือกคลินิกที่มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านปริทันตวิทยา (Periodontist) โดยเฉพาะในกรณีที่มีโรคเหงือกรุนแรง

เกลารากฟันกี่ครั้ง?

จำนวนครั้งในการเกลารากฟันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคปริทันต์และจำนวนฟันที่ต้องได้รับการรักษา:

  • แบบแบ่งส่วน (Quadrant): แบ่งเป็น 4 ส่วน (บนขวา, บนซ้าย, ล่างขวา, ล่างซ้าย) ทำส่วนละ 1 ครั้ง รวมเป็น 4 ครั้ง
  • แบบแบ่งย่อย (Sextant): แบ่งเป็น 6 ส่วน (ฟันหลังบนขวา, ฟันหน้าบน, ฟันหลังบนซ้าย, ฟันหลังล่างขวา, ฟันหน้าล่าง, ฟันหลังล่างซ้าย) ทำส่วนละ 1 ครั้ง รวมเป็น 6 ครั้ง
  • การรักษาติดตาม: หลังจากทำครบทุกส่วนแล้ว ทันตแพทย์จะนัดติดตามผลหลังจากนั้น 1-3 เดือน เพื่อประเมินการตอบสนองต่อการรักษา

กรณีเกลารากฟันทั้งปาก: การเกลารากฟันทั้งปากจะต้องทำเป็นส่วนๆ โดยแบ่งเป็นหลายครั้ง เนื่องจากต้องใช้ยาชาและเป็นหัตถการที่ละเอียด ไม่สามารถทำทั้งปากในครั้งเดียวได้

ข้อควรทราบ: หลังการเกลารากฟันครบทุกส่วนแล้ว ทันตแพทย์จะแนะนำให้มาตรวจติดตามและขูดหินปูนทุก 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการกลับมาของโรคปริทันต์

ต้องการทำนัด

CDC Dental มี 2 สาขาให้บริการ:

1. สาขา BTS สะพานควาย (ศูนย์ทันตกรรมจตุจักร)

  • ที่อยู่: 1639/3-4 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400
  • โทร: 097-925-2424
  • อีเมล: chatuchakdent@gmail.com
  • การเดินทาง: BTS สะพานควาย (ทางออก 3) เดินตรงมาประมาณ 100 เมตร

2. สาขาลาดพร้าว 109 (ปริญญาทันตคลินิกเดิม)

  • ที่อยู่: 3029 ปากซอยลาดพร้าว 109 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. 10240
  • โทร: 097-925-2442
  • อีเมล: prinyadental@gmail.com
  • การเดินทาง: MRT สายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 101 เดินประมาณ 500 เมตร

เปิดทำการทุกวัน: 9:00 - 20:00 น.

สามารถนัดหมายเพื่อตรวจประเมินและรับคำปรึกษาได้ที่ LINE official: @BangkokDentist

เพิ่มเพื่อน


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเกลารากฟัน

Q: เกลารากฟันแล้วเหงือกร่นหรือไม่?
A: การเกลารากฟันไม่ได้ทำให้เหงือกร่น แต่อาจทำให้เห็นว่าเหงือกร่นหลังการรักษา เนื่องจากเหงือกที่เคยบวมอักเสบยุบลงสู่ระดับปกติ ทำให้ดูเหมือนเหงือกร่น แต่จริงๆ แล้วเป็นการกลับสู่สภาวะเหงือกที่สุขภาพดี

Q: เกลารากฟันแล้วอาจมีเลือดไหลไม่หยุดหรือไม่?
A: ปกติหลังการเกลารากฟันอาจมีเลือดออกเล็กน้อย แต่จะหยุดได้เอง หากมีเลือดออกมากหรือไม่หยุด ควรติดต่อทันตแพทย์ทันที ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดหรือทานยาละลายลิ่มเลือด ควรแจ้งทันตแพทย์ล่วงหน้า

Q: เกลารากฟันแล้วฟันจะหายโยกหรือไม่?
A: ในกรณีที่ฟันโยกไม่มาก การเกลารากฟันสามารถช่วยลดการอักเสบและทำให้ฟันแน่นขึ้นได้ แต่หากฟันโยกมากเนื่องจากกระดูกรองรับฟันสูญเสียไปมาก การเกลารากฟันอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ อาจต้องรักษาเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่น


แหล่งที่มาของข้อมูล

ทพญ.ธนิยา โบว์วงศ์ประเสริฐ
บทความโดย

ทพญ.ธนิยา โบว์วงศ์ประเสริฐ (หมอบิว)

เฉพาะทางปริทันตวิทยา (รักษาโรคเหงือก)