การทำ “รีไฟน์เมนท์” (Refinement) หรือที่เรียกว่า "ชุดเก็บรายละเอียด" (Additional Aligners, AA) เป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดฟันใสที่เกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยได้ใส่ชุดถาดจัดฟันชุดแรกครบตามแผนการรักษาเบื้องต้นแล้ว แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้
เมื่อคุณใส่เครื่องมือจัดฟันครบชุดแรกแล้ว โดยส่วนมากมักจะยังหลงเหลือปัญหาฟันซ้อนเก หรือมีช่องว่างอยู่เล็กน้อย เนื่องจากธรรมชาติของการจัดฟันแบบใสคือ ผลการรักษาจริงมักจะไม่ตรงกับในแผนการเคลื่อนฟัน ClinCheck ที่วางไว้ 100% ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความร่วมมือของผู้ป่วย ระยะเวลาการใส่เครื่องมือจัดฟันใส และการตอบสนองต่อแรงเคลื่อนฟันของแต่ละบุคคลที่ไม่เท่ากัน
Refinement จึงเป็นการปรับแต่งแผนการรักษาเพิ่มเติม โดยทันตแพทย์จะทำการสแกนฟันใหม่และสั่งผลิตเครื่องมือชุดใหม่ เพื่อแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้ระยะเวลาการรักษายาวขึ้น และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแพ็คเกจจัดฟันใสที่คุณเลือก
จากงานวิจัยพบว่า การจัดฟันใส Invisalign มักต้องทำ Refinement เฉลี่ย 2.5 ครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในการจัดฟันใส อ้างอิง
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ลองเปรียบเทียบการจัดฟันใสเหมือนการตีกอล์ฟ ซึ่งยากมากที่จะตีครั้งเดียวแล้วลงหลุม (Hole in one) แต่ต้องตีไปจุดหนึ่งก่อน (ทำชุดแรก) แล้วค่อยตีต่อ (ทำชุดเก็บรายละเอียด) จนกว่าจะลงหลุม
การทำ Refinement อาจจำเป็นเนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น:
สิ่งที่คุณควรทราบก่อนการจัดฟันใส คือ แพ็คเกจที่คุณเลือกครอบคลุมการทำ Refinement หรือไม่ ทำได้กี่ครั้ง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่
Refinement มีความสำคัญต่อความสำเร็จของการจัดฟันใสด้วยเหตุผลหลายประการ:
การทำ Refinement ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถปรับแต่งตำแหน่งของฟันให้มีความแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะกับฟันที่มีความซับซ้อนในการเคลื่อนย้าย เช่น ฟันที่หมุน หรือฟันที่ต้องการยกตัวขึ้น
บางครั้งอาจมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการรักษา เช่น ฟันบางซี่อาจไม่เคลื่อนที่ตามแผน การทำ Refinement จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อการจัดฟันแตกต่างกัน การทำ Refinement ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถปรับแผนการรักษาให้เข้ากับการตอบสนองของร่างกายผู้ป่วยแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น
การได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบจากการทำ Refinement จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ป่วย ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จทั้งในแง่ความสวยงามและการทำงานของฟัน
โดยทั่วไป Refinement จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อไปนี้:
เมื่อผู้ป่วยใส่ชุดถาดจัดฟันชุดแรกครบตามแผนการรักษาเบื้องต้น (อาจมีประมาณ 20-30 ชุด ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา) ทันตแพทย์จะทำการประเมินผลการรักษา
ในระหว่างการตรวจติดตามผล ทันตแพทย์จะประเมินว่าการเคลื่อนที่ของฟันเป็นไปตามแผนหรือไม่ หากพบว่ายังไม่ได้ผลตามที่ต้องการ อาจพิจารณาทำ Refinement
ทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินความจำเป็นในการทำ Refinement โดยพิจารณาจากการเคลื่อนที่ของฟัน การสบฟัน และความสวยงามโดยรวม
การทำ Refinement มีประโยชน์หลายประการ ได้แก่:
Refinement ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการรักษาได้
การตอบสนองต่อการจัดฟันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน Refinement ช่วยให้การรักษามีความเฉพาะเจาะจงกับผู้ป่วยแต่ละราย
บางครั้งอาจมีปัญหาที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า การทำ Refinement จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
การสบฟันที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียงแต่ด้านความสวยงาม แต่ยังรวมถึงการทำงานของฟันด้วย Refinement ช่วยให้การสบฟันมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
สัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณอาจต้องการทำ Refinement มีดังนี้:
หากคุณสังเกตเห็นว่า หลังจากใส่ชุดถาดจัดฟันชุดสุดท้ายแล้ว ฟันบางซี่ยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น
หากยังมีช่องว่างระหว่างฟันที่ไม่ควรมี หรือช่องว่างใหญ่เกินไป
การสบฟันที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้เกิดปัญหาในการบดเคี้ยวและอาจส่งผลต่อข้อต่อขากรรไกรในระยะยาว
ทันตแพทย์จัดฟันของคุณจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำว่าคุณควรทำ Refinement หรือไม่
ไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนที่จะต้องทำ Refinement ผู้ป่วยบางรายอาจได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจหลังจากใส่ชุดถาดจัดฟันชุดแรกครบแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องทำ Refinement เพิ่มเติม
ปัจจัยที่อาจทำให้ไม่จำเป็นต้องทำ Refinement:
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่ซับซ้อน เช่น ฟันซ้อนมาก ฟันหมุน หรือการสบฟันผิดปกติ การทำ Refinement อาจมีความจำเป็นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ค่าใช้จ่ายในการทำ Refinement จะแตกต่างกันไปตามแพ็คเกจการรักษาที่คุณเลือก:
ทั้งนี้ ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากคลินิกทันตกรรมที่คุณเข้ารับการรักษา เนื่องจากแพ็คเกจและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ระยะเวลาในการทำ Refinement จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการปรับแต่ง:
โดยทั่วไป การทำ Refinement อาจเพิ่มระยะเวลาการรักษาประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนถาดจัดฟัน Refinement ที่ต้องใช้
วันหมดระยะเวลารักษา หรือวันหมดอายุ (Treatment Expiration Date) คือระยะเวลาที่ครอบคลุมการจัดฟันใส ซึ่งในช่วงเวลานี้คุณสามารถสั่งผลิตชุดเก็บรายละเอียด (Refinement) ได้ วันหมดอายุนี้ถูกกำหนดโดยบริษัทผู้ผลิต (ไม่ใช่คลินิกทันตกรรม)
หลังจากวันหมดอายุ คุณจะไม่สามารถสั่งผลิตชุดเก็บรายละเอียดได้อีก ดังนั้นการรักษาควรดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในกรอบเวลาที่กำหนด
ระยะเวลาในการจัดฟันใสจะขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่คุณเลือก โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 5 ปี นับจากวันที่ทันตแพทย์กดปุ่ม approve ในขั้นตอนดู ClinCheck ดังนั้นคุณควรสอบถามและทำความเข้าใจระยะเวลาที่ครอบคลุมในแพ็คเกจที่คุณเลือกก่อนเริ่มการรักษา
Refinement เป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดฟันใสที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษามีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แม้ว่าไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนจะต้องทำ Refinement แต่สำหรับกรณีที่ซับซ้อนหรือต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น การทำ Refinement จะช่วยให้ได้รอยยิ้มที่สวยงามและการสบฟันที่สมบูรณ์
ที่ CDC Dental เรามีทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการให้บริการจัดฟันใส พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยทั้งการสแกนฟัน 3 มิติและการวางแผนการรักษาด้วยระบบดิจิทัลและ AI คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดตลอดกระบวนการรักษา รวมถึงการทำ Refinement เพื่อให้ได้รอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบ
หากคุณสนใจรับบริการจัดฟันใส หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ Refinement สามารถติดต่อเราได้ที่ LINE official: @BangkokDentist หรือโทร 097-925-2424 (สาขาสะพานควาย) และ 097-925-2442 (สาขาลาดพร้าว 109) เพื่อนัดปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางฟรี
ทันตกรรมทั่วไป